กล้วยน้ำว้าดำ: คุณค่าโบราณที่กลับมานิยม
กล้วยน้ำว้าดำมีสรรพคุณทางยาที่ไม่แพ้กล้วยชนิดอื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น "ยาอายุวัฒนะ" และ "ยาบำรุงกำลัง" สามารถรับประทานได้ทั้งหญิงและชาย

กล้วยน้ำว้าดำ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า "กล้วยน้ำว้าทองสัมฤทธิ์" เป็นกล้วยพันธุ์เก่าแก่ที่ปลูกตามบ้านมาตั้งแต่สมัยโบราณ แม้ในอดีตจะไม่แพร่หลายนักเนื่องจากเปลือกผลที่มีสีน้ำตาลแดงคล้ายผลกล้วยกำลังจะเน่า ทำให้ดูไม่น่ารับประทาน แต่ในปัจจุบันกลับเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่ เนื่องจากมีรสชาติหวานอร่อย และเมื่อติดเครือแต่ละครั้งก็ดูสวยงามแปลกตา สามารถปลูกเป็นกล้วยประดับได้อีกด้วย
การเจริญเติบโตและลักษณะเด่น
กล้วยน้ำว้าดำจัดอยู่ในกลุ่มพันธุ์ผสมที่มีลักษณะค่อนไปทางกล้วยตานี ลำต้นหรือลำต้นเทียมของกล้วยชนิดนี้สามารถสูงได้ตั้งแต่ 2.5-5 เมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15 เซนติเมตร กาบลำต้นด้านนอกมีสีเขียวอ่อนและมีปื้นดำเล็กน้อยหรือชัดเจน ส่วนด้านในเป็นสีเขียวอ่อน ก้านใบมีสีเขียวอ่อนและร่องค่อนข้างแคบ ส่วนหลังใบมีนวล ฐานใบโค้งมน ใบไม่มากและไม่ดกเท่ากล้วยทั่วไป ใบสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เหมือนกับใบกล้วยน้ำว้าทั่วไป
ก้านช่อดอกไม่มีขน ใบประดับ (ปลี) มีรูปร่างไข่ค่อนข้างป้อมหรือเรียวปลายแหลม ม้วนงอขึ้นเมื่อกาบเปิด ด้านบนของปลีเป็นสีแดงอมม่วงและมีนวล ส่วนด้านล่างเป็นสีแดงเข้ม
ในหนึ่งเครือจะมี 5-10 หวี โดยแต่ละหวีมี 10-16 ผล ผลของกล้วยน้ำว้าดำมีลักษณะเป็นเหลี่ยม และเปลือกค่อนข้างหนา ในช่วงที่ผลยังอ่อน เปลือกจะเป็นสีน้ำตาลแดงถึงเข้มคล้ายสีสนิมแดง และจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อผลแก่จัดหรือสุก สีน้ำตาลเข้มที่เปลือกจะยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อกล้วยแก่จัดมากเท่าไหร่
รสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อในของกล้วยน้ำว้าดำมีสีขาว และมีไส้กลางสีเหลือง มีรสชาติหวานหอมอร่อยเหมือนกับกล้วยน้ำว้าทั่วไปทุกประการ บางแหล่งยังระบุว่ามีกลิ่นเล็กน้อย และมีเนื้อหนึบ หรือเหนียวแน่นกว่ากล้วยน้ำว้าปกติเล็กน้อย บางครั้งอาจมีเนื้อที่แห้งคล้ายกล้วยอบหรือกล้วยตาก กล้วยน้ำว้าดำมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และสามารถนำไปรับประทานสด หรือนำไปแปรรูปเป็นขนมหวานต่างๆ ได้เช่นเดียวกับกล้วยน้ำว้าทั่วไป.
สรรพคุณทางยาและความเชื่อ
กล้วยน้ำว้าดำมีสรรพคุณทางยาที่ไม่แพ้กล้วยชนิดอื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น "ยาอายุวัฒนะ" และ "ยาบำรุงกำลัง" สามารถรับประทานได้ทั้งหญิงและชาย ช่วยให้มีกำลัง ทำงานไม่เหนื่อย และไม่อ่อนเพลีย หมอชาวบ้านหรือหมอโบราณนิยมนำกล้วยน้ำว้าดำมาเป็นส่วนผสมของยาบำรุงกำลัง หรือนำไปตากแห้งแล้วผสมกับน้ำผึ้งรับประทานเช้าและก่อนนอนเพื่อบำรุงกำลัง. คุณค่าทางโภชนาการที่สูงนี้ทำให้กล้วยน้ำว้าดำสามารถนำมาใช้ในระบบการแพทย์แผนไทยเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรงและกระตุ้นพลังงาน โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้มีปัญหาสุขภาพ.
การปลูกและการดูแลรักษา
การขยายพันธุ์กล้วยน้ำว้าดำทำได้ด้วยการแยกหน่อ การปลูกกล้วยน้ำว้าดำคล้ายกับการปลูกกล้วยทั่วไป โดยมีข้อแนะนำดังนี้:
- การเตรียมหลุมปลูก: ขุดหลุมให้ลึก 70-80 เซนติเมตร หรือ 1 เมตร กว้างพอประมาณ 60 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ และโรยปูนขาวเล็กน้อยเพื่อปรับสภาพดิน.
- ระยะปลูก: ใช้ระยะปลูก 4x4 เมตร
- การเลือกหน่อพันธุ์: ควรเลือกหน่อพันธุ์ที่แข็งแรง ปลอดโรค และแมลงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ.
- การให้น้ำ: หลังปลูกใหม่ หากไม่มีฝนตกควรรดน้ำให้ชุ่ม 2-3 วันครั้ง กล้วยน้ำว้าดำชอบน้ำ แต่ต้องระวังไม่ให้น้ำขังแฉะ.
- การให้ปุ๋ย: บำรุงด้วยปุ๋ยขี้วัวขี้ควายแห้งโรยกลบดินรอบโคนต้นเดือนละครั้ง หรือใส่ปุ๋ยเคมีทางดินสูตร 15-5-20 ในอัตรา 100 กรัมต่อต้นต่อครั้ง เมื่ออายุ 1 เดือน และเพิ่มเป็น 200 กรัมต่อต้นต่อครั้งเมื่ออายุ 3, 6, และ 8 เดือนหลังปลูก. ควรใส่ปุ๋ยที่มีแร่ธาตุฟอสเฟตและโปแตสเซียมสูง และไม่ควรใส่ปุ๋ยที่มีแร่ธาตุไนโตรเจนมาก.
- สภาพดิน: ชอบดินร่วนที่อุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำและอากาศดี และมีความชุ่มชื้นพอเหมาะ หรือที่เรียกว่า "ดินน้ำไหลทรายมูล".
- แสงแดด: ชอบแสงแดดจัด.
ปัจจุบันหน่อกล้วยน้ำว้าดำมีขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี ตรงข้ามธนาคารออมสิน เยื้องแผงจำหน่ายกล้วยไม้ของคุณวิรัช.
ประโยชน์การใช้งานอื่นๆ
นอกจากคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาแล้ว กล้วยน้ำว้าดำยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้หลากหลาย:
- ปลูกประดับ: การติดเครือที่สวยงามแปลกตาทำให้เหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้ประดับ.
- แปรรูป: สามารถนำไปแปรรูปเป็นขนมหวานต่างๆ ได้.
- ของขวัญ: สามารถนำไปเป็นของขวัญเพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงได้.
โดยรวมแล้ว กล้วยน้ำว้าดำเป็นพันธุ์กล้วยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านรูปลักษณ์ รสชาติ คุณค่าทางอาหาร และสรรพคุณทางยา ทำให้เป็นผลไม้ที่น่าสนใจและมีประโยชน์ที่ควรมีติดบ้านไว้.
FAQ เกี่ยวกับกล้วยน้ำว้าดำและกล้วยโดยทั่วไป
1. กล้วยน้ำว้าดำคืออะไร และมีชื่อเรียกอื่นหรือไม่?
กล้วยน้ำว้าดำ (Musa (ABB group) “Kluai Nam Wa Dam”) เป็นกล้วยพันธุ์เก่าแก่ที่จัดอยู่ในกลุ่มพันธุ์ผสมที่มีลักษณะค่อนไปทางกล้วยตานี จุดเด่นคือเปลือกผลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงคล้ายสนิมเมื่อยังอ่อน และจะกลายเป็นสีดำเมื่อผลแก่จัดหรือสุก ทำให้ได้ชื่อว่า "กล้วยน้ำว้าดำ" นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกอีกว่า "กล้วยน้ำว้าทองสัมฤทธิ์" เนื้อในของกล้วยน้ำว้าดำมีสีขาว รสชาติหวานอร่อยเหมือนกล้วยน้ำว้าทั่วไป และมีไส้กลางสีเหลือง
2. กล้วยน้ำว้าดำมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์อย่างไร?
กล้วยน้ำว้าดำมีลำต้นเทียมสูง 3.5-5 เมตร กาบลำต้นด้านนอกสีเขียวอ่อนมีปื้นดำเล็กน้อย ด้านในสีเขียวอ่อน ก้านใบมีร่องค่อนข้างแคบ เส้นกลางใบสีเขียว และหลังใบมีนวล ก้านช่อดอกไม่มีขน ใบประดับปลีมีรูปร่างไข่ค่อนข้างป้อม ม้วนงอขึ้น ปลายป้าน ด้านบนสีแดงอมม่วงมีนวล ส่วนด้านล่างเป็นสีแดงเข้ม หนึ่งเครือมี 8-10 หวี และหนึ่งหวีมี 10-16 ผล ผลมีเหลี่ยมและเปลือกหนา ซึ่งจะเปลี่ยนจากสีน้ำตาลแดงคล้ายสนิมเป็นสีดำเมื่อสุก
3. สามารถหากล้วยน้ำว้าดำได้ที่ไหน และมีการปลูกอย่างไร?
ปัจจุบันหน่อกล้วยน้ำว้าดำมีวางขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี บริเวณแผงตรงข้ามธนาคารออมสิน เยื้องกับแผงกล้วยไม้ชื่อดัง "คุณวิรัช" การปลูกใช้วิธีขุดหลุมลึก 1 เมตร กว้างพอประมาณ รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกและโรยปูนขาวเพื่อปรับสภาพดิน จากนั้นนำหน่อหรือต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้แน่น และรดน้ำให้ชุ่ม 2-3 วันครั้งในช่วงแรก หากไม่มีฝน การบำรุงรักษาใช้ปุ๋ยขี้วัวขี้ควายแห้งโรยกลบดินรอบโคนต้นเดือนละครั้ง เพื่อให้กล้วยแทงยอดเร็วและติดเครือให้ผลผลิต
4. กล้วยน้ำว้าดำมีประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการอย่างไร?
กล้วยน้ำว้าดำมีคุณค่าทางอาหารสูง และมีสรรพคุณทางยาไม่แพ้กล้วยชนิดอื่นๆ เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นยาอายุวัฒนะและยาบำรุงกำลัง ช่วยให้ไม่รู้สึกอ่อนเพลียง่าย รสชาติหวานไม่มาก เนื้อหนึบ ทานง่าย สามารถนำไปแปรรูปเป็นขนมหวานได้หลากหลายเช่นเดียวกับกล้วยน้ำว้าทั่วไป เช่น บัวลอยแก้ว ทองม้วน และขนมกล้วยธัญพืช
5. กล้วยทั่วไปมีถิ่นกำเนิดและแพร่กระจายไปทั่วโลกได้อย่างไร?
คำว่า "Musa" มาจากคำอาหรับ "Muz" ซึ่งมีรากศัพท์จากภาษาสันสกฤต "Mocha" หมายถึงกล้วย ส่วนคำว่า "banana" มาจากภาษาแอฟริกาตะวันตก กล้วยเป็นพืชพื้นถิ่นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีหลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่ามีการค้าขายกล้วยระหว่างชวากับแอฟริกาตะวันออก และอินเดียกับอุษาคเนย์เมื่อหลายพันปีก่อนคริสตกาล กล้วยเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศอบอุ่นชื้น และแพร่กระจายไปทั่วโลกในบริเวณที่มีภูมิอากาศเหมาะสม ปัจจุบันมีการปลูกกล้วยทั่วไปในแถบเส้นศูนย์สูตรขึ้นไปทางเหนือและลงมาทางใต้ ในประเทศไทยกล้วยเป็นพืชที่ขึ้นได้ทุกภาค โดยแหล่งปลูกสำคัญได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร กาญจนบุรี เพชรบุรี และชุมพร
6. กล้วยมีศัตรูพืชและโรคอะไรบ้าง และวิธีการป้องกันกำจัดเบื้องต้นมีอะไรบ้าง?
กล้วยสามารถถูกทำลายโดยศัตรูพืชและโรคหลายชนิด ตัวอย่างเช่น:
- แมลงศัตรูพืช: ด้วงงวงไชเหง้า (หนอนกัดกินภายในเหง้า ทำให้ระบบน้ำและอาหารชะงัก) และด้วงแรด (หนอนไชทำลายลำต้น ทำให้เครือหักหรือต้นตาย) นอกจากนี้ยังมีหนอนม้วนใบกล้วยที่กัดกินใบ
- โรคพืช: โรคตายพราย, โรคใบจุดซิกาโตกาสีดำ, และโรคใบจุดคอร์คานา การป้องกันกำจัดศัตรูพืชและโรคกล้วยควรรวมวิธีการแบบผสมผสาน ได้แก่ การรักษาความสะอาดแปลง, การทำกับดักล่อแมลง, การเลือกหน่อพันธุ์ที่แข็งแรงและปลอดโรค, การเผาทำลายชิ้นส่วนที่ติดเชื้อ และการใช้สารชีวภัณฑ์ เช่น เชื้อราไตรโคเดอร์มา (สำหรับโรคพืช) และเชื้อราเมตาไรเซียม (สำหรับแมลงศัตรูพืช) ในกรณีที่จำเป็น อาจมีการใช้สารเคมีตามคำแนะนำ
7. การตรวจติดตามสถานการณ์ศัตรูพืชในแปลงกล้วยทำได้อย่างไร?
การตรวจติดตามสถานการณ์ศัตรูพืชในแปลงกล้วยเป็นสิ่งสำคัญเพื่อประเมินความเสียหายและเลือกแนวทางการจัดการที่เหมาะสม โดยมีวิธีการดังนี้:
- การสำรวจแปลง: เข้าไปในแปลงปลูกเพื่อสังเกต นับจำนวน และเก็บข้อมูลของศัตรูพืช (โรค แมลง วัชพืช สัตว์ศัตรูพืช) และศัตรูธรรมชาติที่พบในแปลง
- ความถี่: ควรสำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกสัปดาห์ตลอดฤดูกาลปลูก
- การคำนวณการระบาด: สามารถคำนวณเปอร์เซ็นต์การระบาดของแมลงศัตรูพืชและโรคพืชได้จากจำนวนที่พบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าและพื้นที่ปลูกทั้งหมด
- ปัจจัยสิ่งแวดล้อม: บันทึกข้อมูลสภาพอากาศ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และปริมาณฝน ซึ่งมีผลต่อการระบาดของศัตรูพืช
8. กล้วยน้ำว้าสามารถนำไปแปรรูปเป็นขนมไทยอะไรได้บ้าง?
กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีความหลากหลายสูงและสามารถนำมาแปรรูปเป็นขนมไทยได้หลายชนิด เช่น:
- กล้วยต้ม: เป็นของว่างยอดนิยมที่สามารถรับประทานคู่กับน้ำตาลผสมงาขาวงาดำคั่ว
- กล้วยปิ้ง/กล้วยทอด: ขนมทานเล่นที่ทำง่ายและเป็นที่ชื่นชอบ
- กล้วยบวชชี/กล้วยเชื่อม: ขนมหวานที่ทำจากกล้วยสุก
- กล้วยฉาบ/กล้วยตาก/กล้วยกวน: วิธีการถนอมอาหารที่เพิ่มมูลค่าให้กับกล้วย
- ขนมกล้วยแป้งจี่/เค้กกล้วยน้ำว้า/บัวลอยแก้วกล้วยน้ำว้า: ขนมหวานที่มีรสชาติหวานหอมจากกล้วย
- กล้วยหนึบ: ขนมสุขภาพที่ทำง่ายและได้รับความนิยม
